แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คอนโด แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คอนโด แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ข้อกำหนด 7 อย่างของผู้พึ่งในคอนโด

ข้อบัญญัติ 7 อย่างของชาวคอนโด

        เหลือแหล่คนอาจจะคิดว่า การอยู่คอนโดนั้นเป็นไท ส่วนตัวดี ห้องใครห้องมัน ปิดที่นี่ใส่สลักล็อคกุญแจ รูดผ้าม่านหน้าต่างปิดมิด กันสายตาที่สอดรู้สอดเห็น ที่นี้คุณจะทำอะไรก็ได้ จักหกคะเมนตีลังกาใส่ผ้าหรือว่าถอดผ้า แต่อาจจะมีบางคนไม่รู้เลยว่า ถ้าต่างว่าอยู่บ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์ แล้วค้างค่าน้ำค่าไฟ ก็จะถูกตัดน้ำตัดไฟ หรือไม่ก็โทรศัพท์ก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าคุณคงอยู่ได้คอนโดมิเนียมอาจจะหนักกว่านี้ คือไม่เหมือนถูกตัดน้ำตัดไฟ อาจจะถูกล็อคห้องไม่ให้คุณนั้นเข้าไปใช้ประโยชนอีกด้วย พร้อมด้วยนี่เป็นเรื่องแน่ๆ ที่ทางนิติบุคคลเรือนชุด ได้มีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะทำ พร้อมทั้งเป็นเท่าการเริ่มต้นต้นเท่านั้น แล้วถ้าถ้าถึงที่สุดแล้ว ทางนิติบุคคลอาคารชุดจักเข้ามายึดทรัพย์สมบัติในห้องชุดไปขายไม่ก็กระทั่งการขู่ขายห้องชุดห้องใดห้องหนึ่งเพื่อสะสางหนี้ยังอยู่ในขอบข่ายอำนาจทางกฎเกณฑ์ที่นิติบุคคลอาคารชุดมีสิทธิทำได้อีกด้วย โอ้โห!ไหงเป็นอย่างงั้นได้

        คุณต้องพำนักเรียนรู้ข้อนิติบ้าง มาดู ก่อนอื่นพึงรู้ว่า การอยู่อาศัยในอาคารห้องชุดเหรอคอนโดมิเนียมนั้น มีกฎหมายหลักที่เกี่ยวเนื่อง คือ พระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522 กฎหมายนี้ได้กำหนดเรื่องราวของนิติบุคคลอาคารชุดไว้รอบด้านเลยทีเดียว

  • การเป็นเจ้าของร่วมกัน
  • ความรับผิดชอบร่วมกัน
  • การดูแลงานจัดการ
  • อำนาจและบทบาทของผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด
  • ระเบียบพื้นฐานที่คนคอนโดฯ ต้องทำตาม
  • อำนาจข่มขู่ชำระหนี้
  • คนไปคอนโดฯ ใจต้องโตกว่าตึก


ชีวะของคนคอนโด ต้อง โตแล้ว ซึ่งความหมาย ตกว่า ต้องสามารถบัญชาใจของตนเองให้อยู่ในกฎระเบียบปฏิบัติ เพื่อสาธารณะเป็นเบื้องต้น และให้ความร่วมแรงร่วมใจกับส่วนรวม เพื่อปลุกใจชักชวนมิตรสหายร่วมคอนโดฯเดียวกันให้ปฏิบัติเพื่อสาธารณะ อันหมายถึง การปฏิบัติทำตามข้อกำหนดของอาคารชุดอย่างครบถ้วน

ประโยชน์ที่ได้รับคือ ความผาเกษมสันต์ของชาวคอนโด พร้อมด้วยความเจริญของตัวอาคาร พร้อมด้วยสิ่งปลูกต่าง ๆ ในโครงการที่เป็นทรัพย์สินส่วนกลางหรือไม่ก็สมบัติร่วมกัน ควรระลึกถึงก่อนและหลังเข้าไปทรงไว้คอนโดก็คือ อยู่ตึกคอนโดฯ ใจต้องโตกว่าตึก

ข้อกำหนด 7 ประการของชาวคอนโด

จุดเกริ่นต้นก็คือ
        การที่เข้ามาเป็นเจ้าของร่วมกัน นั่นหมายความว่าผู้คงไว้ที่อยู่ภายในคอนโด นอกจากเป็นเจ้าของห้องชุดที่ซื้อแล้ว ยังจักเป็นเจ้าของร่วมในเงินส่วนกลางต่าง ๆ อีกด้วย

มาตรา 14 กรรมสิทธิ์ส่วนที่เป็นเจ้าของร่วมกันในสมบัติพัสถานส่วนกลาง ให้เป็นไปตามอัตราส่วนระหว่างค่าของห้องชุดกับค่ารวมของห้องชุดทั้งหมดนั้นในขณะที่ขอจดทะเบียนอาคารชุด

อันดับที่ 2
        ความรับผิดชอบ การเป็นเจ้าของมักจักมาควบคู่กับความรับผิดชอบเสมอ ไม่ว่าจักเป็นห้องชุดไม่ก็การถือสิทธิ์การเป็นเจ้าของ ผู้หญิงของผม หรือไม่ก็ ผู้ชายของฉัน กฎหมายนี้กำหนดให้มีสิทธิ์เป็นเจ้าของร่วมกันในทรัพย์ส่วนกลาง ด้วยกันก็กำหนดความรับผิดชอบมาพร้อมกัน

มาตรา 18 เจ้าของร่วมก็ต้องด้วยกันออกค่าใช้จ่าย ที่เกิดจากการบริการส่วนรวม ด้วยกันที่เกิดจากเครื่องมือเครื่องใช้ที่มีไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกันตามส่วนของการใช้ประโยชน์ที่มีต่อห้องชุด ทั้งนี้ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับข้างต้น เจ้าของร่วมก็ต้องร่วมกันออกค่าภาษีอากร พร้อมด้วยค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการดูแลพร้อมกับดำเนินการที่เกี่ยวกับทรัพย์สมบัติส่วนกลางตามอัตราส่วนที่เจ้าของร่วมแต่ละคนได้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ส่วนกลางตามมาตรา14

อันดับที่ 3
        การบริหารและจัดการ ในทางบำเพ็ญนั้นย่อมไม่ได้เรื่อง ถ้าให้ผู้ซื้อห้องชุดต้องมาบริหารจัดการในเรื่องต่างๆ ตามมาตรา 18 เอง ดังนั้นจึงต้องให้นิติบุคคลมาจัดการในเรื่องต่างๆนั้น ด้วยกันต้องให้อำนาจตามที่ควรจักเป็น อาทิ

มาตรา 33 นิติบุคคลอาคารชุดที่ได้มีการจดทะเบียนตามมาตรา 31 ให้มีฐานะสิทธิเป็นนิติบุคคล นิติบุคคลอาคารชุดจักมีจุดหมายเพื่อจัดการ ด้วยกันดูแลรักษาสินทรัพย์ส่วนกลาง พร้อมกับให้มีอำนาจกระทำสิ่งใด ๆ เพื่อเป็นผลตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว ทั้งนี้แล้วตามมติของเจ้าของร่วมภายใต้การบังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้

อันดับที่ 4
        อำนาจพร้อมกับบทบาทหน้าที่ของผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลอาคารชุดจักต้องมีคนบริหารจัดการ เรียกว่า ผู้จัดการ ผู้จัดการคนนี้มีอำนาจมากทีเดียวล่ะ

มาตรา 35 ให้นิติบุคคลอาคารชุด มีผู้สั่งการคนหนึ่ง ซึ่งจักเป็นบุคคลธรรมดา เจ้าของอาคารหรือนิติบุคคลก็ได้ ในกรณีที่นิติบุคคลเป็นผู้จัดการ ให้นิติบุคคลนั้นแต่งตั้งบุคคลธรรมดาคนหนึ่งเป็นตัวตั้งตัวตี สนองนิติบุคคลในฐานะผู้จัดการ

มาตรา 36 ผู้บัญชามีอำนาจหน้าที่ดังถัดนี้

(1) ปฏิบัติการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในมาตรา 33 หรือไม่ มติของที่ประชุมเจ้าของร่วม หรือคณะกรรมการนั้นตามมาตรา 37 ทั้งนี้ เพราะว่าไม่ขัดต่อข้อบังคับ
(2) ในกรณีจำเป็นพร้อมด้วยเร่งด่วน ให้ผู้จัดการที่มีอำนาจ เพราะความริเริ่มทำของตนเองจัดการในกิจการ เพื่อความปลอดภัยของตัวอาคาร ดังเช่นวิญญูชนจะพึงรักษากับจัดการทรัพย์สินของตนเอง
(3) เป็นผู้แทนของนิติบุคคลอาคารชุด
(4) หน้าที่อื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ผู้กระทำต้องปฏิบัติกิจการในหน้าที่ด้วยตนเอง เว้นแต่กิจการ ซึ่งตามข้อบังคับหรือไม่ก็มติของที่ประชุมเจ้าของร่วมตามมาตรา 48 (3) กำหนดให้เวนหมายให้ผู้อื่นทำ แทนได้

อันดับที่ 5
        ระเบียบขั้นต้นที่คนคอนโด ต้องทำตาม รักจะอยู่อาคารชุดก็ต้องเคารพระเบียบกฎเกณฑ์ของอาคารชุด ซึ่งมีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย ตั้งแต่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. อาคารชุด ไม่ใช่หรืออยู่ในระเบียบนิติบุคคลอาคารชุด อาทิเช่น

มาตรา 40 ให้เจ้าของร่วมชำระเงินให้แก่นิติบุคคลอาคารชุดเพื่อเดินกิจการของนิติบุคคลอาคารชุด ดังต่อจากนั้นนี้ (1) เงินค่าใช้จ่ายของนิติบุคคลอาคารชุดที่เจ้าของแต่ละห้องชุดจักต้องจ่ายล่วงหน้า (2) เงินทุนจนกระทั่งเริ่มทำต้นกระทำกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อบังคับ หรือว่าตามมติของที่ประชุมใหญ่ (3) เงินอื่นเพื่อปฏิบัติตามมติของที่ประชุมใหญ่ ภายใต้เงื่อนไขซึ่งที่ประชุมใหญ่กำหนด

อันดับที่ 6
        อำนาจบงการชำระหนี้ เพื่อป้องกันพร้อมทั้งแก้ไขการไม่ให้ความร่วมมือในการออกค่าใช้จ่ายเพื่อดูแลรักษาทรัพย์สินส่วนกลาง กฎหมายอาคารชุดได้ให้อำนาจนิติบุคคลอาคารชุดไว้แล้ว กับอย่าลืมว่า ผู้จัดการฯ มักจักเป็นผู้ใช้อำนาจนั้น

มาตรา 41 เพื่อค่าในการบังคับชำระหนี้อันเกิดจากค่าใช้จ่ายตามมาตรา 18 ให้นิติบุคคลอาคาร ชุดมีบุริมสิทธิ ดังนี้
(1) บุริมสิทธิเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายตามมาตรา 18 วรรคหนึ่ง ให้ถือว่าเป็นบุริมสิทธิในลำดับเดียวกับ บุริมสิทธิตามมาตรา 259 (1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งพร้อมทั้งพาณิชย์พร้อมทั้งมีอยู่เหนือสังหาริมทรัพย์ที่เจ้าของห้องชุดนั้นนำมาไว้ในห้องชุดของตน
(2) บุริมสิทธิเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายตามมาตรา 18 วรรคสอง ให้ถือว่าเป็นบุริมสิทธิในลำดับเดียวกับ บุริมสิทธิตามมาตรา 273 (1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งด้วยกันพาณิชย์ พร้อมทั้งมีอยู่เหนือทรัพย์ส่วนบุคคล ของแต่ละเจ้าของห้องชุด บุริมสิทธิตาม (2) ถ้าผู้จัดการได้ส่งรายการหนี้ต่อบุคลากรเจ้าหน้าที่แล้วให้ถือว่าอยู่ในลำดับก่อน จำนอง

พัฒนาความให้ชัดเจนก็คือนิติบุคคลอาคารชุดมีกรรมสิทธิ์ในธนทรัพย์ต่าง ๆ ในห้องชุดเหนือกว่าเจ้าของห้องชุดแต่ละห้องด้วยซ้ำ พร้อมด้วยเหนือกว่าเจ้าหนี้ทุกราย  อำนาจเช่นนี้แหละ ที่เอื้อให้นิติบุคคลอาคารชุดในทางดำเนินการก็คือ ผู้จัดการอาคารชุดสมรรถ บังคับ เจ้าของอาคารชุด ให้รับผิดชอบภาระหน้าที่ของตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินค่าบำรุงส่วนกลาง การจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์พร้อมกับอื่น ๆ ทั้งนี้เพราะว่ามีคณะกรรมการควบดูแลการจัดการนิติบุคคลอาคารชุดดูแล เพราะมีการประชุมใหญ่ ไม่ใช่หรือประชุมเจ้าของร่วมทั้งหมดหนุนหลังในขั้นสุดท้าย พร้อมทั้งเมื่อพิจารณาลักษณะการประชุมใหญ่แล้ว ก็ทำได้สนับสนุนการ บังคับ ต่าง ๆ ได้

อันดับที่ 7
        คนสิงสู่คอนโดใจต้องโตกว่าตึก ว่าไปแล้วปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมสูงระฟ้า ด้วยกันการแก้ไขปัญหาไม่ใช่อยู่ที่นิติบุคคลอาคารชุด พร้อมกับผู้จัดการอาคารชุดมีอำนาจตามกฎหมายเหรอไม่ แต่อยู่ที่มีศักยภาพทำให้อำนาจนั้นมีผลบังคับหรือไม่ไม่ หรือว่าไปแล้วปัญหาอยู่ที่ ผู้คนที่อาศัยในอาคารชุดใหญ่โตโอฬาริกนั้น มีวุฒิภาวะมากพอไม่ก็โตพอแล้วเหรอยัง ความผาสุขของชุมชนระฟ้าจะสมบูรณ์สวยงาม ไม่ใช่หรือขาดวิ่นเว้าแหว่งก็ขึ้นอยู่กับคนในคอนโด เองว่าจะทำตาม บัญญัติ 7 ประการ นี้หรือว่าไม่ ทั้งนี้มี ใจที่โตพอ รับผิดชอบด้วยกันสละพอเป็นแกนกลาง

แกะรอยข่าวสารของคอนโด โครงการคอนโดใหม่
ได้ ขอบคุณข้อมูลดีที่เอามาแชร์ จาก : cmc.co.th
ที่มา : propertytothai

เคล็ดลับชักนำก่อนซื้อบ้าน - คอนโดหลังแรก

 ข้อเสนอแนะ ก่อนซื้อบ้าน คอนโดหลังแรก

              ข่าวคราวบางส่วนของไมเคิล ไอเซนเบิร์ก ผู้เข้าใจแจ่มแจ้งด้านการเงินส่วนบุคคล จากเว็บไซต์ฟิเดลิตี้ ทุนเดิมใหญ่อันดับหนึ่งของสหรัฐ ในหัวเรื่อง เทคนิคแนะนำนำผู้บริโภคจ่ายเงินบ้านหลังแรก เพื่อช่วยให้คนไทยที่หมายซื้ออสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจักเป็นบ้านหรือคอนโดมิเนียมหลังแรกเพื่อไว้เป็นของตัวเอง เพราะว่าแผ่นจดหมายนี้ไอเซนเบิร์กนั้น ยังมีข้อแนะอีกจำพวกหนึ่งที่เหเล่าลือ มาฝากให้กับคนไทยทั้งในพร้อมทั้งต่างประเทศได้นำข้อมูลของเขา ไว้ไปประยุกต์ใช้ได้ เพื่อตั้งข้อสังเกตให้คำนึงฉุกคิด กับผู้ที่บุกเบิกต้นจากพื้นฐานไม่มีความแน่ใจเลย หรือไม่รู้อะไรเลย พร้อมทั้งต้องใคร่ครวญพิจารณาให้ดีก่อนที่จะปลงใจซื้อบ้าน

1. ต้องมีเงินออมเผื่อเหลือเผื่อขาดฉุกเฉิน เป็นอีกไอเดียหนึ่งที่เตือนใจก่อนให้ความเห็นในชะง่อนบวกของไอเซนเบิร์กที่ว่า สมมตคุณมีเงินสดอยู่ในมือเพียงพอแล้ว ที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงชีวิตนาน 3-6 เดือน นั่นหมายถึงการที่ได้ก้าวเข้าใปใกล้ระดับเตรียมตัวเป็นเจ้าของบ้านหรือไม่คอนโดได้แล้ว แต่ไอเซนเบิร์ก ก็ขอให้ผู้บริโภคคนไทย นึกถึงรูปการณ์บางอย่างที่ไม่ดี ที่จะทำให้รายได้ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องนั้น เกิดสะดุดติดขัด เช่น กรณีป่วยไข้ป่วยรุนแรง การให้ออกพนักงาน เหรอแม้แต่ความฉิบหายภัย ซึ่งเป็นเหตุไม่คาดฝัน ทำให้คุณไม่อาจทำงานพร้อมด้วยหารายได้ตามพื้นๆ คุณต้องแน่ใจก่อนว่านะว่ายังมีเงินรองรัง ช่วยให้การชำระหนี้เพื่อที่อยู่อาศัยไม่สะดุด พร้อมด้วยเชี่ยวชาญผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากไปได้

2. เป็นได้ควบคุมหนี้ไม่ให้บานปลายได้ บรรดาสถาบันการเงินต่างๆ ที่เป็นเจ้าหนี้ ปลดปล่อยกู้ทุกวันนี้ เครือข่ายมีระบบที่สร้างความมั่นใจได้ว่า ลูกหนี้ไม่ก็ผู้ซื้อบ้านต้องการเงินกู้ มีเงินแทบพอแต่ละเดือนเพื่อสะสางหนี้ ดังนั้น ก่อนที่บรรดาธนาคารหรือสถาบันการเงินถิ่นอื่นเป็นเจ้าหนี้อนุมัติสินเชื่อให้ ลูกหนี้ ต้องพิจารณาสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ของผู้กู้เสียก่อน แต่โดยทั่วไปแล้ว ไอเซนเบิร์กต้องการให้ลูกหนี้นั้น ประเมินตัวเองเสียก่อน เพื่อให้แน่ใจได้ว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเฉพาะบ้านหรือไม่ก็คอนโด ซึ่งรวมถึงเงินโอน ดอกเบี้ยกับภาษีอีกทั้งเงินประกันภัย แม้รวมแล้วต้องไม่มากเกินกว่า 33% ของรายรับรวมในแต่ละเดือน ขณะที่กิจหนี้ที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือน ซึ่งหนี้เหล่านี้รวมถึงหนี้ที่ต้องผ่อนบ้าน หนี้บัตรเครดิต หนี้เพื่อการศึกษา พร้อมทั้งหนี้ต้องผ่อนสะสางค่ารถยนต์ ต้องต่ำกว่า 38% ของค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ดังนั้นเป็นไอเดียที่ดีกว่า สมมติว่าผู้คิดจักซื้อบ้าน ซึ่งเดิมมีหนี้ก้อนใหญ่จะออดอ้อนลดมูลหนี้ให้น้อยลง ก่อนตกลงใจขอสินเชื่อเพื่ออสังหาริมทรัพย์ พร้อมด้วยต้องมั่นใจก่อนว่าตัวเองมีคุณสมบัติเช่นพอที่จักขอเงินกู้ได้มากตามความ จำเป็น

3. แน่ใจได้หรือไม่ก็ยังพระประวัติเครดิตขอสินเชื่อไม่มีปัญหา ในต่างประเทศ ณ ตอนนี้ ผู้ขอกู้ซื้อที่อยู่อาศัย ไม่จำเป็นจะต้องมีเรื่องราวการขอสินเชื่อที่ดี 100% เพื่อให้มั่นใจว่าจักได้รับอนุมัติเงินกู้ซื้อบ้าน แต่แค่มีชีวประวัติการเงินพอใช้ใช่ไหมพ้นได้ก็ทำได้ช่วยให้ผู้ขอกู้ ได้ดอกเบี้ยที่ต้องผ่อนค่าชำระลดลง และจำนวนเงินที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือน ผ่อนได้น้อยลงด้วย ในประเทศสหรัฐ คนไทยที่พักอยู่ ก็ได้รับการช่วยเหร่ำลือจากทางภาครัฐ ให้ตรวจสอบชีวประวัติทางการเบี้ยของตัวเองได้ทุกปีจากเว็บไซต์ annualcreditreport.com โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิน เพราะว่าข้อมูลที่เข้าไปตรวจสอบเป็นข้อมูลที่ได้จากเครดิตบูโรสำคัญ 3 แห่ง ดังนั้น ผู้บริโภคที่ประสงค์จักขอกู้เงินซื้อที่อยู่อาศัยนั้น ก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลซึ่งบรรดาสถาบันทางการเงิน ก็ใช้เป็นข้อมูลในการตรวจสอบเช่นกัน ก่อนที่จะตัดสินใจให้เงินกู้ คำแนะนำนำในข้อนี้จะช่วยให้ผู้ขอกู้ เพิ่มความระมัดระวังในการขอสินเชื่อของตัวเอง ซึ่งอาจมีผลต่อให้ การตัดสินใจของผู้ให้กู้ได้

4. ซื้อที่อยู่อาศัยควรถือทรงสิทธิไว้ให้นานที่สุด ข้อนี้เป็นการย้ำเตือนใจให้ผู้คิดที่จะซื้อบ้านใช่ไหมคอนโดว่า พร้อมหรือทำใจยังว่าการมีบ้านใช่ไหมคอนโดเป็นของตัวเอง ควรจะอยู่ให้นานอย่างน้อย 3-5 ปีได้ไม่ก็ไม่ และต้องคำนึงถึงคราวเวลาด้วยว่า จักทำที่พักอาศัยให้เรียบร้อยลงตัว ก่อนที่คิดจักทำธุรกรรมขายต่อได้หรือไม่ก็ไม่ เพราะถ้าขายก่อนระยะอันสมควร ผู้ซื้ออาจจักขาดเงินลงทุนจากธุรกรรมได้ ในต่างประเทศอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา สมมติผู้ซื้อคิดหาทำกำไรกลับคืนจากการซื้อที่อยู่อาศัย เจ้าของบ้านนั้นจักต้องจ่ายภาษีจากกำไรที่ขายได้ แต่ถ้าหากพักอาศัยอยู่ในบ้านไม่ถึง 2 ปี ระยะเวลาในการพักอาศัยจึงสำคัญมาก ด้วยกันถ้าคิดว่าตัวเองไม่สามารถพักอาศัยได้นาน ผู้ซื้ออาจจักคิดอีกวิธีหนึ่งคือควักกระเป๋าเพื่อธุรกิจให้เช่าจะดีกว่า

5. ฉลาดจัดเตรียมตัวที่จักเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ไอเซนเบิร์กได้พูดเตือนว่า แม้คุณนั้นรอบรู้ซื้อไม่ใช่หรือเป็นเจ้าของที่พักอาศัยอยู่ได้ แต่อย่าปลงใจง่ายๆ เช่นเพราะว่ามีแค่ศักยภาพการเงินที่จะซื้อ แต่ขอให้แน่ใจก่อนว่าพร้อมที่จะใช้ชีวิต กับเชี่ยวชาญดูแลรักษาบำรุงสถานที่อยู่อาศัยได้ตามความจำเป็นกับเหมาะสม ในตราบการเป็นเจ้าของที่พักอาศัย แม้เกิดชำรุดเสียหาย ผู้ซื้อใช่ไหมเจ้าของต้องเป็นคนจัดการ และต้องจ่ายเงินให้ช่างซ่อมแซมแทน เว้นเสียแต่นี้เจ้าของไม่ก็ผู้ซื้อ ยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายการดูแลบ้านเป็นประจำอีกด้วย ซึ่งรวมถึงงานถนอมกล่อมเกลี้ยงรักษาบ้านหลังเล็กๆ ของคุณ ในกรณีที่คุณซื้อที่พักพักอาศัยในต่างประเทศ ขอให้นึกถึงคราวหน้าหลังการซื้อว่า มีเวลากับพลังด้วยกันความมุ่งมั่นที่จะดูแลอสังหาริมทรัพย์ของตัวเองอย่างครันจังหรือไม่

6. สรรหาข้อมูลเพิ่มเติม คือคำแนะนำท้ายที่ไอเซนเบิร์กอยากได้ให้คนไทยในสหรัฐ เข้าไปตรวจสอบหาข่าวคราวเพิ่มเติมได้เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จากเว็บไซต์  360financialliteracy.org ของ American Institute of Certified Public Accountants' หรือ เอไอซีพีเอ เพราะว่าคุณศักยเข้าไปในเว็บไซต์ข้างต้น เพื่อดูประเด็นกับหัวข้อเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลของคุณ เพื่อหาข้อมูลใช่ไหมทางเร่ำลือก ที่จะช่วยจัดการคุ้มครองทางการเงินของตัวเองได้ สำหรับเวบไซต์ของเอไอซีพีเอนั้นรวบรวมบทความ วิธีการคำน  วณ พร้อมทั้งเครื่องมืออื่นๆ ที่ช่วยให้คนไทยในสหรัฐด้วยกันในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก รอบคอบพร้อมทั้งระวังทุกๆ ด้าน ก่อนปลงใจควักเงินซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรกในชีวิตของตัวเอง


ขอบคุณ : cmc.co.th
บทความจาก : thaihomemasterm
โดย ดร.ศุภวิศวร์ ปัญญาสกุลวงศ์ และ คุณกฤษณ์ แย้มสระโส

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ประกาศการดึงซื้อบ้าน / คอนโดของแบงก์

วงทรัพย์สมบัติกู้ของธนาคารนั้นที่แต่ละคนจะได้รับขึ้นอยู่กับเหตุ อะไรบ้าง


คนที่ทำธุรกิจส่วนใหญ่ มักจักคุ้นเคยกับคำว่า วงเงินกู้ (Loan) เป็นอย่างดี ซึ่งการที่จะกู้เงินจากแบงค์ได้นั้นภารกิจจะต้องมีจุดประสงค์ที่แน่ชัด อีกทั้งต้องบอกว่า วงเงินที่ต้องการใช้ ช่วงเวลาจ่ายชำระคืน พร้อมด้วยที่สำคัญคือต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันวงเงินกู้ให้กับธนาคาร เช่น ที่ดิน อาคาร เครื่องจักร เป็นต้น ข่าววงเงินกู้ของแบงค์ วงเงินนั้นที่แต่ละคนจะได้รับจักขึ้นอยู่กับหลายสิ่งของ โดยทำเป็นแบ่งออกได้ดังนี้

1. ตำแหน่งเงินเดือนและภาระหนี้สิน ค่าเพราะว่าเกือบๆจักได้ 50 เท่าของเงินเดือน เช่น ถ้าเงินเดือน 20,000 ด้วยกันไม่มีภาระหนี้สินใดๆ วงเงินกู้ที่ได้่จะประมาณ 1,000,000 (20,000 x 50 เท่า) แต่ถ้าคุณมีผ่อนอะไรอยู่ก็จะหักจากค่าจ้างก่อนแล้วค่อยคูณด้วย 50

บางคนที่มีเงินโอทีหรือเงินเงินรายได้พิเศษนอกเหนือไปจากเงินเดือนประจำ บางธนาคารก็ไม่เอามาคิด บางแบงค์ก็เอามาคิดแค่ 50% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกฎกับนโยบายของแต่ละธนาคาร ซึ่งคนกู้จักต้องเช็คกับทางธนาคารอีกที

ปริมาณวงเงินกู้ อาจได้มากเหรอน้อยกว่า 50 เท่า ขึ้นอยู่กับเครดิตของผู้กู้ ความมั่นคงของภาระหน้าที่การงาน พร้อมกับประวัติบุคคลการชำระหนี้อื่นๆ ก่อนหน้านี้ ส่วนผู้กู้ที่ทำงานบริษัทที่มีสวัสดิการกู้ซื้อบ้านกับทางธนาคาร ธนาคารมัก ปลดกู้ง่ายพร้อมด้วยให้โควตาวงเงินมากกว่าปกติ

2. สนนราคาประเมินบ้านใช่ไหมคอนโดมิเนียมของทางธนาคาร สนนราคาประเมินที่กล่าวถึง ทางธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจบ้านที่เราจักซื้อกับประเมินสนนราคา พวกบ้านหรือไม่ก็คอนโดใหม่ บางแบงก์ให้กู้เต็มค่าประเมิน ส่วนพวกป่าวประกาศขายบ้าน / คอนโดมือสอง บางธนาคารก็ให้กู้เต็ม แต่ส่วนมากมักให้แค่ 80% ของมูลค่าประเมินธนาคาร อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละธนาคารที่มีอยู่ ทั้งนี้ถ้าได้สนนราคาประเมินบ้านสูงกว่าฐานของเงินเดือนตามข้อที่ 1 คุณก็กู้ได้สูงสุดตามข้อ 1 พร้อมกับถ้าราคาประเมินบ้านต่ำกว่าวงเงินตามฐานค่าจ้างในข้อที่ 1 คุณก็กู้ได้สูงสุดตามสนนราคาประเมินบ้าน

3. อายุของผู้กู้ ธนาคารส่วนมากให้ผู้กู้ทำเป็นชำระหนี้ได้จนถึงอายุ 60 บางแบงค์อาจถึง 65 ดังนั้นถ้าคุณอายุท่วมท้น จำนวนปีในการซักล้างหนี้จักน้อย ซึ่งก็หมายความว่าค่าบรรเทาชำระหนี้ในแต่ละเดือนนั้นจักสูง เช่น อายุ 55 ขอกู้เงิน 3,000,000 ซึ่งคุณจะทำเป็นผ่อนได้แค่ห้าปี ดังนั้นจำนวนรวมเงินผ่อนแต่ละเดือนจะสูงมาก ซึ่งเพราะว่าทั่วไปแล้วธนาคารจักให้ผ่อนได้ไม่เกินคาดคะเน 40% ของเงินเดือน ถ้าแม้เกิน ธนาคารก็จะลดวงเงินกู้คุณลง

ผู้กู้เก่งกู้เพิ่มเป็นค่ารจิตได้อีกเกือบๆ 10% ของวงเงินกู้บ้านที่ทางธนาคารอนุมัติให้ เช่นถ้าแบงค์อนุมัติวงเงินกู้ยืมซื้อบ้านให้คุณที่หนึ่งล้านบาท คุณทำเป็นกู้เพื่อตกแต่งเพิ่มได้อีกจำนวนหนึ่งแสนบาท แต่ตำแหน่งดอกเบี้ยเหตุด้วยเงินกู้ตกแต่งจะสูงกว่าเงินกู้ซื้อบ้าน

มาตราดังกล่าวนั้นไม่ได้ตายตัว แบงค์แต่ละแห่งก็จะมีข้อพิพากษาที่แตกต่างกัน ที่กล่าวมานั้นเป็นเท่าแนวทางคร่าวๆ ทั้งนี้ผู้กู้ต้องติดต่อถามเจ้าหน้าที่สินเชื่อของแต่ละธนาคารจักดีที่สุด หรือติดต่อไปตามที่ Call Center ที่มีบริการในแต่ละแบงค์ก่อนก็ได้ ทางเจ้าหน้าที่อาจจักให้ข้อมูลคร่าวๆ ได้เช่นกันค่ะ

ข้อแนะ:

1. คนที่ใคร่ได้มีบ้านหรือไม่คอนโด แต่ไม่รู้จักเกริ่นยังไง ขอให้เกริ่นจากการตีค่าวงเงินกู้ของตนเองก่อนว่าธนาคารจะ เปลื้องกู้ให้คุณได้เท่าไหร่ คุณเชี่ยวชาญติดต่อข้าราชการสินเชื่อแต่ละธนาคาร (แนะนำให้ติดต่อกับธนาคารที่่คุณมีบัญชีเงินเดือนไม่ใช่หรือธนาคารที่บริษัทคุณมีสวัสดิการก่อน เพราะแบงค์พวกนี้จักเป็นได้เช็คข่าวคราวของคุณได้ง่ายจากบัญชีของคุณ พร้อมด้วยความเป็นไปได้ในการได้รับอนุมัติก็จักมีมากกว่าธนาคารที่คุณไม่เคยเป็นลูกค้ามาก่อนเลย) เราอาจเช็คหลายๆแบงค์ได้พร้อมกัน เป็นแค่ขั้นตอนของ การขอข่าวคราวจากธนาคาร ไม่ได้ทำเรื่องกู้

2. ภายหลังเข้าใจแจ่มแจ้งวงเงินที่คุณเป็นได้กู้ได้ ก็ค่อยไปมองหาดูบ้านหรือว่าคอนโดที่อยู่ในงบของคุณ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปดูบ้านหรือว่าคอนโดที่มันแพงๆ แล้วมารู้ที่หลังว่าคุณกู้ไม่ข้ามเพราะว่าบ้านแพงไป

3. อย่าซื้อบ้านเหรอคอนโดเกินกำลังพร้อมทั้งฐานะของตนเองมากเกินไป ก็เพราะว่าถ้าคุณกู้สูงๆ แล้วค่าผ่อนต่อเดือนมันก็จะบานตะไทมาก อย่าลืมนึกถึงค่าตกแต่งที่จักตามมาอีกมากมาย รวมถึงเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉินที่เราต้องใช้เงิน เช่น เจ็บป่วยหรือว่าอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันที่ต้องการใช้เงิน ถ้าประสงค์ผ่อนแบบไม่หนักมาก ควรผ่อนแค่คร่าวๆ 30% ของเงินเดือน

4. ให้เโจษจันกระยะปีในการผ่อนให้นานที่สุด ถ้าเป็นได้เฟุ้งเฟื่องกแบบ 30 ปี ก็เเอิกเกริกกแบบ 30 ปีไปก่อน เวลามีเงินคุณก็ค่อยเอาไปโปะเรื่อยๆ เพราะการเเลื่องลือกระยะเวลาผ่อนที่นาน จะทำให้ค่าผ่อนที่ต้องจ่ายต่อเดือนไม่มาก เช่นถ้าคุณกู้ 1,000,000 บาท เละบือกผ่อน 30 ปี คุณต้องปันออกต่อเดือนประมาณ 6,000 บาท แต่ถ้าคุณเลือกผ่อนที่ 10 ปี คุณต้องจ่ายต่อเดือนประมาณการ 11,000 บาท คุณเโจษจันกแบบ 30 ปี แล้วค่อยๆ เอาเงินไปโปะเรื่อยๆ ให้หมดภายในสิบปี ดอกเบี้ยที่เสีย ก็ไม่ต่างกันมากค่ะ อันนี้จะช่วยคุณได้ในกรณีฉุกเฉินที่คุณต้องใช้เงิน กับทำให้คุณนั้น ไม่เครีดมากในการจัดการค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน


ค่าธรรมเนียมการโอน:

1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ( หัก ณ ที่จ่าย ) = ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร
2. ค่าธรรมเนียมการทำนิติกรรม ( ค่าโอน ) = 2 % จากค่าประเมินของกรมหรือว่ามูลค่าขาย แล้วแต่อย่างใดสูงกว่า
3. ค่าจดจำนอง ( กรณีจำนองกับสถาบันการเงิน ) = 1% ของมูลค่าที่จำนอง (จำนวนที่กู้ทั้งหมด)
4. ค่าอากรแสตมป์ (ชำระอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง อากรแสตมป์ หรือว่าธุรกิจเฉพาะ) = 0.50% ตามราคาซื้อขายแต่ ไม่ต่ำกว่าราคาประเมินของกรม
5. ภาษีธุรกิจเฉพาะ ( ไม่ต้องชำระสมมติว่าถือครองเกิน 5 ปี หรือไม่มีชื่อในทะเบียนบ้านเกินหนึ่งปี) = 3.3% ของค่าซื้อขายที่ไม่ต่ำกว่าค่าประเมินของกรม
ค่าธรรมเนียมการโอนอาจออกคนละครึ่งระหว่างผู้ซื้อพร้อมด้วยผู้ขาย เหรอฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกทั้งหมด อันนี้ขึ้นอยู่กับการตกลงกันแต่แรก ดังนั้นควรตกลงเรื่องค่าธรรมเนียมการโอนต่างๆ ก่อนทำคำมั่นจักซื้อจักขาย เพราะว่าอาจมีการโต้เถึยงเกิดขึ้นได้ในวันโอน ทางที่ดีควรรวมรายละเอียดค่าธรรมเนียมการโอนไว้ในสัญญาจะซื้อจะขายด้วยเพื่อป้องกันการโต้เถียงกันภายหลังโ

ข้อมูลจาก  (cordia.bloggang)

เคล็ด 10ข้อ ดัดแปลงห้องนอนเล็กๆอย่างไรให้สวยเลิศ

10 เคล็ดลับเคล็ดลับ ตั้งแต่งห้องนอนเล็กๆของคุณให้สวยเลิศ

ไม่ว่าห้องนอนจะอยู่ในคอนโด ไม่ก็ที่บ้าน แต่หลายแห่งมักจักแบ่งห้องหรือว่าซอยห้องออกมาเล็กจนน่าอึดอัดพร้อมทั้งหงุดหงิด พอครั้นจะแพร่กระจายต่อเติมออก ก็ไม่มีงบพอใช่ไหมไม่มีพื้นที่เหร่ำลือพ่างพอที่จะขยายได้อีก แล้ววันนี้เรามาใช้เทคนิคการตกแต่งให้เป็นผลดีกันนะคะ กับเคล็ดลับที่จักช่วยให้คุณนั้น ตกแต่งห้องนอนสัดส่วนเล็กของคุณให้ดูใหญ่ขึ้น น่านอนมากขึ้น

1. สมมติว่าคุณไม่ชอบห้องสีขาวไม่ใช่หรืออาจจะเพิ่งได้ห้องคอนโดใหม่มา แต่ไม่รู้จักใช้สีไหนดี ลองนำไอเทมสีเด่นเตะตามาตกแต่งห้องนอนดู อย่างห้องนี้ที่ใช้หมอน กับผ้ากรอมเตียงที่เป็นสีส้มแดงเตะตา เข้ากับมู่ลี่จีนทำจากไม้พร้อมทั้งเพ้นท์สีทองจาง ๆ ทำให้ห้องดูเด่นขึ้นได้ อีกทั้งเก้าอี้ไม้สานโปร่งก็ช่วยให้ห้องดูกระจ่างไปด้วยเช่นกัน

2. เปิดแนวให้แสงทะลวงเข้ามาภายในห้องบ้าง ช่วยให้ห้องโรจมากขึ้น แต่เพิ่มความเป็นส่วนตัวจะติดตั้งมู่ลี่แบบม้วน เหรอแบบเกี่ยวที่ทำจากผ้าลูกไม้หรือไม่ผ้าทอมือก็ไม่เลวดุจกัน 
3. เพิ่มปริมาณพื้นที่หัวเตียงให้กลายเป็นเป็นชั้นวางของเสียเลย เนื่องด้วยคนที่มีข้าวของเครื่องใช้หรือหนังสือมาก ๆ ชี้แนะว่าควรเป็นชั้นบิ๊วอินที่สูงจากพื้นถึงเพดาน จะช่วยให้ห้องดูโอ่โถงมากขึ้น ศักยติดตั้งไฟอ่านหนังสือได้ และทำอะไรได้จิปาถะเลยเชียวแหล่ะ

 4. อย่ากลัวการใช้หน้าต่าง หน้าต่างจักเป็นตัวช่วยนำพาแสงสว่าง พร้อมด้วยความกระจ่างเข้ามาในห้อง นำทางว่าควรผลักเตียงให้ชิดหน้าต่างไปเลย จักเพิ่มเนื้อที่ห้องให้มากขึ้นได้ พร้อมด้วยเพื่อความเป็นส่วนตัวในเวลากลางคืน คุณรอบรู้เร่ำลือกติดตั้งมู่ลี่ไว้บนหน้าต่างได้ด้วยเช่นกัน
5. ทริกแบบคลาสสิกสุด ๆ ก็คือใช้กระจกเงาช่วยนั่นเอง ทำให้ห้องหับดูกว้างขึ้นได้อีกมาก แถมช่วงเวลานี้ยังมีกระจกหลายเฉดสีให้คุณเลือกตามสไตล์ของห้องหับได้ด้วยนะคะ

 6. ถ้าหากพื้นที่ค่อนข้างขีดคั่น ลองเเล่าลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สั่งกำเนิดดู อย่างห้องนี้ที่มีที่อยู่ใต้หลังคา เพดานจึงเอียงเอียงอย่างที่เห็น หากใช้เตียงธรรมดาคงจะไม่ได้แน่ จึงได้จ้างช่างมาดีไซน์ให้พอดีกับพื้นที่ แถมยังเป็นเตียงคู่เสียด้วย อีกทริกก็คือการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความบาง ทำให้ไม่เกะกะสายตา ไม่ใช่หรือทำให้ยุ่ง อย่างเก้าอี้อะคริลิกในห้องนี้เป็นต้นค่ะ
   
7. ต่างว่าห้องนอนของคุณตีบลึก ตรงห้องนอนห้องนี้ ลองแต่งผนังด้านในที่ลึกที่สุด ให้วิไลโดดเด่นที่สุด ด้านเดียวไปเลย จักดึงสายตาดึงความสนใจไปที่กำแพงห้องได้ อย่างห้องนี้เระบือกใช้วอลล์เปอร์สีฟ้าอ่อนพิมพ์ลายสีบรอนซ์ทองดูหรูหรา อีกทั้งผ้าคลุมเตียงยังมีความแวววับ จึงเข้ากันได้ดีด้วย

8. พิสูจน์ทำให้ Headboard ของคุณเปลี่ยนแปลงเป็นพื้นที่ด้วยทำงานเสียเลย นี่เป็นตู้ที่มีสองด้าน ด้านที่หันเข้าหาเตียงจะเป็นชั้นหนังสือ เว้นที่ด้านซ้ายไว้เล็กน้อยเหตุด้วยวางโคมไฟ ที่ให้ภาถึงโต๊ะทำงานอีกฝั่งได้ด้วย เหมาะเพราะด้วยห้องนอนหน้าแน่นลึกอีกเช่นกัน
9. แต่งฝาผนังด้วยลวดลายและสีสันที่โดดเด่นดึงดูดสายตาไปเลย ก็สวยไปอีกแบบ อย่างห้องนี้ที่เร่ำลือกวอลล์เปเปอร์มากรุกำแพงลาดเอียงซึ่งเป็นห้องใต้หลังคา ให้มีลวดลายกราฟฟิก ค้ำประกันว่าถูกใจเด็กวัยรุ่นที่บ้านของคุณแน่ ๆ


10. สีขาวยังไงก็ไม่เสียแน่.. แม้จักดูน่าเบื่อ แต่อันที่แท้แล้วขึ้นอยู่กับการขจิตมากกว่า ลองขัดเกลาแบบห้องนี้ก็ได้ค่ะ กำกับโทนสีขาว เทา แนวธรรมชาติเข้าไว้ ประดับแต่น้อยสไตล์มินิมัลลิสต์ แค่นี้คุณก็ได้ห้องนอนที่ทั้งอบอุ่น สว่าง พร้อมทั้งเท่เกินใครแล้วค่ะ

ขอขอบคุณภาพจาก : st.houzz.com
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : homenayoo.com

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ค่าส่วนกลางคอนโด เก็บน้อยหรือว่ามาก ขึ้นอยู่กับอะไร

ค่าส่วนรวม คอนโด เก็บน้อยเกินไปก็ไม่ดี มากเกินไปก็ไม่ได้

“ค่าส่วนกลาง” เป็นค่าครองชีพที่ประธานมากของผู้ที่ซื้อคอนโดมิเนียม หรือไม่เจ้าของห้องชุดที่จงช่วยกันจ่ายส่วนนี้ ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่าเดิมที่เราซื้อโครงการคอนโดใหม่มา ทางโครงการก็จักกล่าว หรือไม่ก็มีสิ่งพิมพ์การขายกำหนดอัตราค่าส่วนกลางไว้แล้ว ว่าจะเก็บตารางเมตรละเท่าใดอะไรอย่างไรมั้ง ซึ่งอัตราจัดเก็บส่วนนี้ ทำได้เปลี่ยนแปลงหรือไม่ก็แก้ไขได้ แต่ต้องเป็นอยู่ในความเห็นชอบของที่ร่วมชุมนุมใหญ่

ค่าศูนย์กลางของคอนโด นั้น เท่าที่เทียบราคากับบ้านจัดสรรแล้ว จักแพงกว่าอย่างเห็นได้ชัด เนื่องแต่โครงการคอนโดฯ จะมีสิ่งที่เอื้ออำนวยความราบรื่นต่างๆ ที่ใช้ร่วมกันมากกว่า เหรอมีเหตุที่ให้ต้องใช้จ่ายมากกว่า เช่น เงินค่าจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย, สินจ้างพนักงานเก็บขยะ, เงินค่าจ้างแม่บ้าน, คุณประโยชน์ไฟฟ้าในบริเวณที่เป็นพื้นที่ของส่วนกลาง อย่างลิฟต์, บันได, ค่าไฟที่อยู่นอกห้องชุด (ค่าไฟ, แอร์และโทรทัศน์บริเวณล็อบบี้) , ค่าเครื่องมือวัสดุทำความเกลี้ยง อื่นๆ

โดยปกติธรรมดาในวันโอนกรรมสิทธิ์ผู้ซื้อมักจะต้องชำระ “ค่าส่วนรวมล่วงหน้า” ซึ่งทั่วไปแล้วคัดลอกเอาไว้ 1-2 ปี ส่วนตำแหน่งเท่าไหร่นั้นก็แล้วแต่โครงการจักกำหนด นิติบุคคลอาคารชุดแต่ละแห่งจะมีมาตรการในการจัดเก็บค่าสาธารณะไม่เหมือนกัน แล้วแต่ข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุดนั้นๆ เงินจัดเก็บสำหรับค่าศูนย์กลางนี่กฎหมายกะๆให้ทำได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายพรรณ “บริการสาธารณะ” ได้ แต่ทั้งนี้ต้องโดยเจาะจงในกรณีที่ผู้จัดสรรที่ดินได้เขียนเรื่องประกอบไว้ในแผนงานโครงการ และวิธีการจัดสรรว่าจักเรียกเก็บประโยชน์บริการสาธารณะจากผู้ซื้อที่ดินจัดแบ่ง ตามอัตราที่ได้รับยินยอมจากคณะกรรมการจัดสรรที่ดินที่สรุปไว้ในขั้นตอนการยื่นคำขอจัดแบ่งเท่านั้น

เว้นเสียแต่นี้ยังมีค่าใช้สอยที่เกิดจากการทำงาน หรือการดูแลบริหารการจัดการของเงินส่วนกลางด้วย เช่นเงินเดือนของผู้บัญชาฝ่ายนิติบุคคลอาคารชุด คุณค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเครื่องใช้ด้วยกันสิ่งของต่างๆ ในสำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด กินความรายการจ่ายที่ไม่ประจำ เช่น ค่าแก้ไขระบบไฟฟ้า ประปา เป็นต้น

กิจของเจ้าของห้องชุดคอนโด ที่ต้องปรับปรุงค่าส่วนกลางทุกเดือนส่วนใหญ่รับรู้ กันทั่วไปแล้ว แต่ที่ยังมีกระทู้ถาม อยู่บ้างคือข้อสงสัยที่ว่าทำไมค่าส่วนกลางถึงแพงจัง ?

อัตราค่าสาธารณะ จะถูกไม่ใช่หรือแพงขึ้นอยู่กับหลายวัตถุหลายมูลเหตุ สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการที่มากน้อยไม่เท่ากัน จึงทำให้ค่าศูนย์กลางแต่ละแผนการไม่เท่ากัน ถ้ามีสิ่งอำนวยความสบายมากค่าส่วนกลางก็สูง เรียกว่าใช้มากก็ต้องจ่ายมากทำนองนั้น นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับระดับไม่ก็หมวดคอนโดด้วย เช่น โครงการไฮเอนด์หรูๆ แน่นอนค่าสาธารณะก็ต้องแพง ก็เพราะว่ามาตรฐานในการบริหารจัดการอาคารหรือว่าพื้นที่สาธารณะต้องสูงไปตามระดับ จำนวนยูนิตในแต่ละโครงการก็มีผลเช่นกัน โครงการที่จำนวนยูนิตน้อยค่าส่วนกลางจักสูง เพราะว่าตัวหารกระจายน้อยกว่า

เชื่อได้เลยว่า ถ้าเโจษกได้ทุกคนก็คงเโจษจันกคอนโดฯ ที่ค่าส่วนกลางถูกกว่าอย่างแน่นอน แต่ในความครันนั้นคอนโดฯ ที่ค่าส่วนกลางต่ำๆ ก็ไม่ใช่คำตอบที่ถูกที่ควรที่สุดเสมอไป ก็เพราะว่าถ้าสาธารณะมันต่ำเกินไป ก็อาจทำให้การบริหารจัดการ ไม่ก็การดูแลอาคาร กับพื้นที่ส่วนกลางทำได้ไม่เต็มที่ หรือบริหารกันไปแบบตามมีตามเกิด เหมือนสายการบินโลว์คอส ที่จะทำอะไรก็ต้องถนอมไว้ก่อน

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ก็คือ แทบจะไม่มีคอนโด ไหนที่เก่งเก็บค่าส่วนกลางได้ 100% เต็มโดยไม่มีการค้างจ่าย ฉะนั้นแล้วค่าส่วนกลางที่จะกำหนดอัตราจัดเก็บไว้แล้ว เอาเข้าแท้ก็ได้ไม่ครบหรือไม่ไม่พอก็มี แต่ถ้าสูงเกินไปก็ไม่ดีเพราะจักเป็นต้นทุนของเจ้าของห้องชุด ยิ่งสมมติว่าเราซื้อเพื่อ เปลื้องเช่าแล้วค่าใช้จ่ายส่วนนี้มากเกินไปก็จะไปลิดรอนผล ตอบแทนให้ลดลงได้ แนวคิดที่ถูกต้องเกี่ยวกับค่าครองชีพสาธารณะในกรณีที่เป็น

การซื้อคอนโดฯ เพื่อ ให้เสรีภาพเช่านั้น ก็คือจักจ่ายมากหรือไม่ก็จ่ายน้อยก็ขึ้นอยู่กับค่าเช่าที่เก็บได้เป็นหลัก ถ้าเก็บค่าเช่าได้น้อย โสหุ้ยในส่วนนี้ก็ต้องน้อยตามลงไปด้วย แต่ถ้าเก็บค่าเช่าได้มากถึงค่าส่วนกลาง  ค่าส่วนกลางจักสูงไปสักหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่ในกรณีที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง อันนี้น่าจะขึ้นอยู่กับความพึงพอใจพร้อมด้วยความทำได้ในการจ่ายมากกว่า อยู่คอนโดแบบหรูก็ต้องยอมรับว่าต้องจ่ายแพงกว่า ถ้าไม่ทะเยอทะยานจ่ายแพงก็คงต้องค้นหาคอนโดฯ ถูกๆ ค่าส่วนรวมต่ำๆ อยู่กันไป

การไม่ชำระค่าศูนย์กลางมีผลเสียมากมายต่อเจ้าของร่วมทุกคน ทางที่ดีควรสะสางตามกำหนดไปเถอะครับ พร้อมด้วยร่วมกันสั่งการจัดการหรือไม่ตรวจสอบบัญชีจะเป็นการดีกว่า การเก็บค่าส่วนรวมของนิติบุคคลเก็บไปก็เพื่อประโยชน์ในการดูแลใช้จ่าย ซ่อมแซมปรับปรุงทรัพย์ส่วนรวมให้อาจใช้งานได้นานๆ และทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยในที่อยู่อาศัยของเราเอง
ขอขอบคุณ : cmc.co.th

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

จัดทำบรรยากาศสุดพิเศษเหมือนกับดินแดนในภวังค์ ด้วยเฉดสี

ประดิษฐ์บรรยากาศสุดเยี่ยมแบบดินตำบลในฝัน ด้วยเฉดสี

จะมีอย่างไรที่ทำให้คนเรานั้น มีสุขมากไปกว่าการได้อยู่เข้าชิดตัวกับคนที่คุณรัก ท่ามกลางสถานที่ที่อันแสนจักอบอุ่น ด้วยกันโรแมนติก ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือไม่คอนโดของคุณ พร้อมทั้งถ้าแม้สถานที่แห่งนั้นเป็นดินที่ภายในฝันที่คุณหลงรักและหิวใช้ชีวิตแบบนี้ในทุกๆวันด้วยแล้ว ก็คงจักล้นเหลือไปด้วยความรู้สึกอันแสนพิเศษในทุกโมงยาม
ในขณะที่เรากำลังฝันนึกถึงบรรยากาศที่ตลบอบอวลไปด้วยโลกแห่งความโรแมนติก แต่ช่วงเวลาของการใช้ชีวิตมันกลับไม่เอื้ออำนวยให้เราสามารถเดินทางไปยังสถานที่แห่งต่างๆ ได้มากมายขนาดนั้น คงจะดีกว่า ถ้าหากเรารอบรู้เก็บเอาบรรยากาศที่แสนเยี่ยมเหล่านั้นมาแต่งแต้มให้ทุกๆ วันภายในบ้านให้กลายเป็นภาคในฝันเหนือจินตนาการ

เพราะว่าบรรยากาศคือส่วนผสมหนึ่งของชีวิตที่เก่งช่วยเสก ให้ทุกวันเปี่ยมไปด้วยความสุข ดั่งเช่นบรรยากาศแห่งความโรแมนติกในท่ามมัธยมทุ่งลาเวนเดอร์ ของเมืองชานเมืองของประเทศฝรั่งเศส ที่รุ่มรวยไปด้วยสีสันของธรรมชาติอันเช้งวับงดงาม ท่ามกลางโทนสีม่วงแสนหวาน กับกลิ่นหอมอันแสนเยักย้ายถ่ายเทวนที่ถูกแต่งแต้มไว้อย่างละเมียดละไมในทุกอณู จึงพร้อมรังสรรค์ทุกคืนวันให้อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุนทรีย์ที่เกินบรรยาย ด้วยกันคงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าสีสันแห่งธรรมชาติจากทุ่งลาเวนเดอร์อันแสนงดงามเหล่านั้น จักสามารถจักนฤมิตพื้นที่ภายในบ้านให้เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งห้วงความโรแมนติกในทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะห้องนั่งเล่น ซึ่งนอกจากจักเป็นพื้นที่ด้วยไว้พักผ่อนหย่อนใจเอนร่างกายแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งอาณาจักรแห่งความอบอุ่นที่พร้อมให้สมาชิกทุกคนภายในบ้าน เก่งใช้เวลาเพื่อพบปะ สังสรรค์ พร้อมด้วยพูดคุยกันได้อย่างมีความสุขในทุกวัน

เพื่อคนรักบ้านที่ต้องการสร้างบรรยากาศอันแสนโรแมนติก เสมอเหมือนยกทุ่งลาเวนเดอร์ของฝรั่งเศสมาไว้ชั้นในห้องนั่งเล่นของคุณก็อาจจะทำได้ไม่ยาก เพียงบุกเบิกต้นด้วยการถ่ายทอดจิตใจของสีสันจากธรรมชาติด้วยโทนสีออกม่วงพาสเทลลงบนผนัง พร้อมประสานความโรแมนติกให้มากยิ่งขึ้นด้วยการตกแต่งในสไตล์ฝรั่งเศสที่ให้บรรยากาศอบอุ่นคลาสสิค ตอกย้ำงานเฟอร์นิเจอร์เหล่า Soft Furnishing อย่างโซฟาที่เป็นผ้าบุที่อ่อนนุ่ม ผ้าม่านสีหวาน ใช่ไหมหมอนอิงลายลูกไม้ พ่างเท่านี้ก็พร้อมแต่งเติมสีสันแห่งความความไพเราะ ให้กับห้องนั่งเล่นราวกับนั่งพักผ่อนหย่อนใจนอนกลิ้งอยู่ท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์อันงดงาม
หรือไม่ถ้าใครที่ตรึงใจบรรยากาศแห่งชีวิตชีวา ก็ทำเป็นดื่มด่ำไปด้วยความปลุกใจร้อนในจังหวะเพลงฟลามิงโก้ของประเทศสเปนได้ง่ายๆ ด้วยโทนเฉดสีแดงสดที่สื่อถึงสีสันแห่งชีวิตชีวา อาจไม่ต้องตกแต่งด้วยข้าวของที่มีเส้นสายหรือเป็นรูปทรงซับซ้อน แทบแต่งเติมความสดใสด้วยแจกัน โคมไฟ หมอนอิง หรือไม่ทาสีกำแพงด้วยโทนสีแดงสดพร้อมทั้งโทนสีอ่อนที่ได้แรงผลักดันมาจากทรายเนื้อละเอียด ก็พร้อมประดิษฐ์ให้บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่นของคุณดูอบอุ่นพร้อมด้วยผ่อนคลาย เสมือนได้อยู่ท่ามกลางดินแดนแห่งเสียงเพลงฟลามิงโก้ในประเทสสเปนทุกๆ วัน

ต่างว่าตะโกรงสัมผัสถึงพลังแห่งความสดชื่นอันแสนรื่นรมย์ราวกับอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวเขียวขจีที่ไกลสุดสายตาของประเทศนิวซีแลนด์ ก็รอบรู้เนรมิตห้องนั่งเล่นให้สดชื่นไปด้วยความเขียวสดชื่นได้ไม่ยาก เพียงตกแต่งภายในห้องนั่งเล่นของคุณด้วยการใช้ชุดพาเลทท์โทนสีเขียว ที่ก้องกังวานถึงความมีชีวิตชีวาลงบนผนังห้อง แล้วใช้อาร์มแชร์ผ้าบุสีเขียวจัดวางเป็นเฟอร์นิเจอร์หลัก พร้อมกับอาจเเลื่องกเฟอร์นิเจอร์สายงานไม้เข้ามาเพิ่มตกแต่งร่วมด้วย ก็ยิ่งช่วยเสริมให้บรรยากาศภายในห้องเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งธรรมชาติที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นของประเทศนิวซีแลนด์ได้มากยิ่งขึ้น

ไม่ว่าช่วงโอกาสไหนก็เป็นได้เนรมิตบรรยากาศภายในบ้านให้พิเศษสุดดุจแว่นแคว้นในฝัน ได้ด้วย ดูลักซ์ อินสไปร์ ชุดพาเลทท์สี ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ‘คัลเลอร์ ออฟ เดอะ เวิร์ล’ (Colours of the World) ซึ่งได้รับแรงผลักดันจากสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 9 ประเทศที่มีเอกลักษณ์พร้อมทั้งความโดดเด่นเฉพาะตัว จนเกิดเป็นชุดพาเลทท์สีทั้ง 9 โทนสีที่สวยงาม เพราะในแต่ละโทนสีประกอบไปด้วยสีต่างๆ มากถึง 6 เฉดสี จึงผสมผสานพร้อมทั้งถ่ายทอดออกมาเป็น 54 เฉดสีใหม่ ที่พร้อมรังสฤษฏ์ทุกบรรยากาศของบ้านให้เต็มไปด้วยสีสันแห่งความงดงามดุจดินพื้นที่ในฝันได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นโทนสีส้มอมน้ำตาลอันอบอุ่นจากประเทศออสเตรเลีย สีเหละบืองประกายทองที่มีชีวิตชีวาจากประเทศไทย ชุดเฉดสีเอิร์ธโทนอันน่าเกรงขามจากประเทศแอฟริกา และชุดสีอื่นๆ อีกมากมาย ที่มีมาให้เลือเลื่องกสร้างสรรค์เฉดสีสวยได้ดุจดั่งใจต้องการ เพราะเก่งจำลองการออกแบบโทนสีสวยได้ด้วยแอปพลิเคชั่น Dulux Visualizer (ดูลักซ์ วิชวลไลเซอร์) เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากดูลักซ์ ที่พร้อมช่วยให้คนรักบ้านสมรรถจำลองการออกแบบสีห้องได้เสมือนแท้จริงแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นได้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ฟรีลอดโทรศัพท์มือถือพร้อมด้วยแท็บเล็ตทั้งระบบปฏิบัติการ iOS ด้วยกัน ระบบ Android

มากไปกว่านั้น ดูลักซ์ อินสไปร์ สีน้ำอะครีลิคเนื่องด้วยทาภายใน ยังมาพร้อมคุณสมบัติรั้งเกาะผนังได้ดีเยี่ยม ไม่หลุดร่อนง่าย อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยสุดยอดเทคโนโลยี โครมาไบรท์ (Chroma Brite) ช่วยยืดอายุของสีให้สวยคงทนได้ยาวนานเพราะว่าไม่ทำให้ซีดจางไว จึงพร้อมปกป้องสีบนผนังของบ้านให้สวยสดใสได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมยังง่ายต่อการทำความสะอาด ก็เพราะว่ารอบรู้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ กับไม่ผสมสารตะกั่วพร้อมด้วยปรอท มากไปกว่าคุณสมบัติสุดพิเศษแล้ว สีทาภายใน ดูลักซ์ อินสไปร์ ยังพร้อมเนรมิตบรรยากาศภายในบ้านให้เต็มไปด้วยสีสันเสมือนดินแดนในฝันได้ในทุกช่วงเวลา   ก็เพราะว่าสถานที่มักส่งผลต่ออารมณ์พร้อมกับความรู้สึก ทั้งช่วยสร้างชีวิตชีวา เพิ่มพลังในการใช้ชีวิต ใช่ไหมมอบความหย่อนอารมณ์ที่แสนสบายในทุกๆ ย่างก้าวที่เดินทาง แต่คงจักดีกว่าสมมติว่าเราอาจเก็บรายละเอียดอันงดงามจากสถานที่เหล่านั้นพร้อมด้วยศักยหยิบมาผสมเป็นการตกแต่งภายในบ้านด้วยโทนสีสวยที่มีเสน่ห์  ไม่ว่าจักเป็นวันที่แสนเหนื่อยล้าใช่ไหมวันที่หมายใช้ชีวิตอย่างเนิบช้า ณ สถานที่ใดสักแห่ง พื้นที่ภายในบ้านก็สมรรถกลายเป็นดินแดนในฝันได้ตามใจปรารถนา

สนใจโครงการคอนโดใหม่ อาจติดตามได้ที่นี้



วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

4 ข้อควรรู้ก่อนปลงใจที่จะค้าขายคอนโด

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อขายคอนโดมิเนียม

ข้อควรรู้ 4 ข้อที่คุณไม่ควรจักหลวมตัวเชื่อ ก่อนจะซื้อ คอนโด เพื่อมาลงทุน

class= เพราะในปัจจุบันเพราะด้วย คอนโดมิเนียม นั้นก็แทบจะเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่มีการโหมโรง ทั้งยังเปิดครอบครอง ด้วยกันเปิดพรีเซลล์กันเกือบทุกอาทิตย์ การประกวดประขันกันในเรื่องของทำเล ราคา การดีไซน์ เรียกว่าอาจจักมากกว่าจำนวนผู้ที่ต้องการซื้อคอนโดใหม่เสียด้วยซ้ำ แต่ว่าคุณรู้เหรอไม่ว่าในทางการโปรโมทต่างๆ นั้นส่วนหนึ่งอาจจักเป็นหลุมพลางและทำให้คุณหลงตัดสินใจจอง ด้วยกันซื้อคอนโดมิเนียมโครงการนั้นเพราะว่าไม่ได้ยั้งคิด ดังนั้นทางเราจึงมีคำปรึกษาเกี่ยวกับการเร่ำลือกซื้อคอนโดอย่างไรส่วนที่คุณจักไม่ตกหลุมของผู้สนับสนุนนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มี 4 ข้อสั้นๆ อ่านไว้ก่อนจะตัดสินใจเเลื่องกซื้อคอนโด ข้อที่ 1. จงอย่าเฟือนเชื่อการโปรโมทของนักงอกงามอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งนักเพิ่มปริมาณอสังหาริมทรัพย์ใช้เงินลงทุนในการทำงานจำนวนมาก รวมทั้งยังใช้เงินจำนวนมากหมดไปกับการโปรโมท สินค้าตัวใหม่ของเขา ดังนั้นคุณอย่าหลงเชื่อพ่างซึ่งเพราะว่าแผนการตลาดต่างๆ มันก็ต้องคำนวณถึงความคุ้มคุณประโยชน์ในการซื้อขายในเบื้องหน้า ซึ่งแค่คิดแค่ว่าคุณจักยอมจ่ายเงินมหาศาลเพื่อให้ได้มาซึ่งเพื่อนและครอบครัวที่ดีเสมอไป ข้อที่ 2. คุณควรแน่ใจว่าคุณจักขายคอนโดนั้นได้อย่างแน่แท้ก่อนที่คุณจักเซ็นรับมอบ คุณไม่ควรปลงใจซื้อคอนโดที่โครงการห่างไกลจากการก่อสร้าง เพราะว่ากว่าที่คอนโดของคุณนั้นจักทำจักเสร็จ ในคอนโดของคุณจะถูกกำหนดราคาเพราะมูลค่าคอนโดในท้องตลาด ที่มันต่ำกว่าค่าคอนโดที่คุณซื้อมาตั้งแต่แรก ข้อที่ 3. จงซื้อเพราะว่าไม่มีแรงจูงใจหรือไม่มีการกำหนดแผนการ เพราะว่าก่อนที่คุณนั้นจะตกลงใจซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการลงเงิน คุณควรมีความรู้ความเข้าใจ กับ มีการวางแผนในหลายๆ เรื่องด้วย ข้อที่ 4.จงเล็งเห็นถึงต้นทุน และ รายได้ที่จักได้มา ซึ่งแต่ละคนก็จักได้รับความเสี่ยงในการลงทุนได้แตกต่างกัน ก็เพราะว่าฉะนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อคอนโดเพื่อการลงทุน ควรหันเหกลับไปคิดถึงแผนที่คุณวางไว้ ถ้าคุณมีแรงจูงใจในการซื้อมันก็ถือว่าคุณวางเงินลงทุนไว้ในที่ๆ เหมาะสม นี่เห็นไหมคะว่าเครื่องล่อเหล่านี้อาจทำให้คุณพลั้งเผลอพลั้งได้ง่ายๆ ดังนั้นก่อนตัดสินใจจ่ายเงินจำนวนมากก็ต้องคิดหนักๆ นะคะ

เคล็ดลับควรรู้! ขายคอนโดให้ได้มูลค่างามตามฉบับตัวยง

border=0
(ขอบคุณภาพประกอบจาก people.hgtv.com )

คอนโดไม่ได้กลายเป็นแค่ที่อยู่อาศัยแทบอย่างเดียวเท่านั้น แต่ว่าในพื้นที่แห่งนี้ มันก็ยังกลายเป็นหนึ่งในทางธุรกิจการซื้อขายที่ช่วยสร้างกำไรให้กับเหล่านักลงทุนที่มีความรู้ ในส่วนคนที่เป็นมือใหม่ด้วยกันหันมาจับทางการซื้อ - ขายคอนโดเป็นอาชีพหลัก นั้นก็อาจจะยังกลัวๆ กล้าๆ กับการลงทุน ซึ่งก็อาจจักไม่
border=0
(ขอขอบคุณภาพประกอบจาก decoholic.org )

มั่นใจกับผลการทดแทนว่าจักขาดทุนหรือว่าได้กำไร ด้วยบางกลุ่มที่ยังเป็นมือใหม่ และซื้อแล้วใจร้อนไม่มีการหาข้อมูลวิธีการเพิ่มมูลค่าให้ดีก่อน ก็ต้องกลายเป็นว่าต้องใช้เวลาในการขายนานขึ้น เพิ่มด้วยบางคนรีบลดสนนราคากระหน่ำก็เพราะว่าคิดว่ามันคงจะขายไม่ออก จึงทำให้กลายเป็นความล้มเหลวในธุรกิจนี้กันมาแล้วหลายต่อหลายคน กับสมมตใครกำลังประสบปัญหานี้ หรือว่าเพิ่งริจักเกริ่นต้นเป็นผู้ขายคอนโดให้ดูเหมือนมืออาชีพ ควรเน้นการทำกำไรแบบงามๆ แล้วล่ะก็ ถ้าอย่างนั้นก็ลองมาดูข้อเสนอแนะดีๆ จากเราต่อไปนี้เพื่อนำไปใช้ในการต่อยอดกันดีกว่าค่ะ

border=0
( ภาพประกอบจาก decoholic.org )
1. มาโหมโรงต้นด้วยการดูงบประมาณของตัวเองก่อน ด้วยว่าสิ่งสำคัญที่สุด ในการลงทุนคือประเมินค่าความสามารถทางด้าน งบคาดคะเนของตัวเองให้ดีก่อน เพื่อที่จะได้เโจษจันกระดับของคอนโดว่าต้องการให้มันออกมาอยู่ในรูปแบบไหน เพราะว่าแม้งบน้อยจำเป็นที่จะต้องเลือกระฉ่อนกซื้อคอนโดราคาถูกลงมา เพื่อให้เหโจษเงินทุนอีกส่วนหนึ่งเนื่องด้วยใช้ตกแต่งภายในด้วย
border=0
(ภาพประกอบจาก palletfurniturediy.com)

2.มองหาหรือไม่ก็เระบือกคอนโดให้ได้มูลค่าดี ซึ่งตราบคุณมีเงินทุนตามสมควรก็มาถึงขั้นตอนการเระบือกซื้อคอนโดที่เหมาะสมให้กับตัวเอง เพราะเน้นว่าคอนโดนั้นจะต้องเพิ่มมูลค่าให้ได้มากขึ้นตราบใดทำการขาย เกี่ยวกับมือใหม่นั้นควรจักทราบว่าในคอนโดจะมีให้เเลื่องลือกด้วยกัน 2 เหล่า ก็คือ คอนโดแบบที่สร้างเสร็จแล้ว จักเห็นตัวห้อง พร้อมด้วยสภาพของคอนโดเพราะว่ารวมอย่างชัดเจน กับแบบที่กำลังอยู่ในช่วงของการก่อสร้าง เพราะแบบแรกจักให้ข้อดีตรงที่รอบรู้มั่นใจได้ว่าห้องที่เราเร่ำลือกซื้อคุ้มค่ากับสนนราคาแบบไม่ต้องมานั่งจินตนาการว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหนพร้อมทั้งน่าพึงพอใจเหรอไม่ แต่ในแบบที่สองนั้นจักมีความเสี่ยงถ้าโครงการนั้นไม่มีมาตรฐานในการสร้าง แต่ว่า ข้อดีของมัน ก็คือ การช่วยเกร็งกำไรของห้องให้มีมูลค่าสูงขึ้น จนกว่าคอนโดจักสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งมักจักใช้เวลากันหมาย 1 - 2 ปี โดยคะเน
border=0
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก apartmenttherapy.com/

ซึ่งในส่วนถัดมาคือการเโจษจันกทำเลที่ตั้ง เป็นเรื่องปัจจัยที่จะช่วยให้เหล่าผู้ซื้อตกลงใจเลือเลื่องกได้ง่ายขึ้น ส่วนนี้ถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักของการลงทุนในธุรกิจเลยก็ว่าได้ ทีนี้ที่คุณต้องทำการศึกษาปัจจัยความพึงพอใจของผู้เช่าซื้อทั้งหลาย ทำเลที่ดีดูไม่ยาก ให้เน้นความสะดวกสบายในการเดินทาง อยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งควรมีธรรมชาติร่มรื่น ทั้งเงียบสงบ พร้อมกับ ก็สมรรถเชื่อมต่อกับการทางรถไฟฟ้า ใช่ไหมรถไฟใต้ดิน พร้อมด้วย คมนาคมสาธารณะได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย และสิ่งเหล่านี้ มันก็จักช่วยให้การสร้างกำไรในธุรกิจซื้อขายคอนโดได้มากกว่าขาดทุน แต่ว่าก็อย่าลืมว่านอกจากที่กล่าวไปข้างต้น ว่ายังมีสิ่งที่เราต้องใส่ใจอีกหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้มากกว่าเดิมด้วยการตกแต่งภายใน ส่วนการเโจษกหาเจ้าของโครงการที่น่าเชื่อถือเอาไว้ ก็เป็นตัวช่วยสร้างรากฐานของเราให้มั่นคงได้อีกทางหนึ่งด้วย

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

The Diplomat Sathorn คอนโดหรู จุดศูนย์กลางเมือง ถิ่นธุรกิจที่อยู่สาทร

The Diplomat Sathorn  คอนโดโก้หรู ตอนกลางเมือง แหล่งงานณสาทร 


คอนโดมิเนียมที่เหมาะกับคนใช้ชีวิตในเมือง ทำงานหรือว่ามีลูกๆเรียนในปริมณฑลย่านสีลม สาทร ไปมาด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก หรือว่าเเลื่องกสัญจรด้วยรถในเวลาไม่เร่งรีบ ขึ้นทางด่วนออกเมือง หรือใช้สาทรเข้าเมืองก็สะดวก เคียงข้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ชอบความหรูหราและส่วนกลางที่จัดเต็ม โครงการคอนโดใหม่ใจกลางเมืองที่สาทรกับ The Diplomat Sathorn เป็นโครงการที่ 3 ของ KPN ที่เคยพัฒนาโครงการอย่าง The Capital ราชปรารภ-วิภาวดี พร้อมด้วย The Capital เอกมัย-ทองหล่อ เพราะว่าทันทีก็ขยับมาจับ Prime Location ที่สาทร ติดรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ เพราะมี Sales Gallery ยกขึ้นอยู่ทีเดียวกับที่ตั้งโครงการ เข้าชิดตัวกับโรงแรม Mode สาทร เราลองมาดูรายละเอียดปลีกย่อยเลย

พลความของแผนการ
ปรมาภิไธยโครงการ : เดอะ ดิโพลแมท สาทร / THE DIPLOMAT SATHORN
เจ้าของแผน : เค.พี.เอ็น. กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น / KPN Group Co., Ltd. (ขายเพราะ CBRE)
คอนโดมิเนียม : แบบ SUPER LUXURY CLASS High Rise 1 อาคาร 38 ชั้น 192 ยูนิต
ที่จอดรถ : 100% - 192 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน
ธาตรีทั้งหมดเพราะเกือบๆ : 1-2-12ไร่
ลักษณะห้องพร้อมด้วยขนาดห้อง :
             1 Bedroom  /  40 - 52 ตารางเมตร
             2 Bedrooms  /  59 - 76.5 ตารางเมตร
             3 Bedrooms + Penthouse  /  85.5 - 205 ตารางเมตร
ที่จอดรถทั้งหมด : 192 คัน คิดเป็น 100%
ขอบเขต : สาทร, สุรศักดิ์, เจริญราษฎร์
ฐาน : ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
ขนส่งสาธารณะ :  รถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์, ทางด่วนสาทร ทางด่วนถนนจันทน์
รถเพราะสารที่ทะลวง : n/a
กะๆการ :  n/a
ปีที่แปลงสำเร็จลุล่วง : พ.ศ. 2559
ค่าโหมโรงต้นกะ : 9 ล้านบาท
สนนราคาหารต่อตารางเมตรเกือบๆ 200,000 บาท
สิ่งอำนวยความสะดวก
             - สระว่ายน้ำ ขนาด 28 x 7 ม. พร้อมสระเด็ก
             - ฟิตเนส
             - รปภ. พร้อมด้วย CCTV
             - ประตู Key Card
             - สวนหย่อม
สถานที่สำคัญใกล้เคียง :
ห้างสรรพสินค้า
             1. เซ็นทรัล สีลม คอมเพล็กซ์
             2. ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บางรัก
             3. บ้านสีลม
             4. ท็อปส์ มาร์เก็ตเพลส (สาขาสีลม)
             5. วิลล่า มาร์เก็ต (สาขาสีลม ซอยพิพัฒน์)
             6. ฟู้ดแลนด์ (สาขาพัฒน์พงศ์)
             7. ท็อปส์ ซุปเปอร์ (สาขาเซนต์หลุยส์/บางรัก)
โรงเรียน
             1. โรงเรียนเซนต์หลุยส์
             2. โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน
             3. โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก
             4. โรงเรียนอัสสัมชัญ คอนแวนต์
             5. โรงเรียนอัสสัมชัญ พาณิชยการ
             6. โรงเรียนอนุบาลเปล่าประสิทธิ์
โรงพยาบาล
             1. โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์
             2. โรงพยาบาลเลิดสิน
             3. โรงพยาบาลมเหสักข์
             4. โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
             5. โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
โรงแรม
             1. โรงแรมแชงกรีล่า
             2. โรงแรมโอเรียลเต็ล
             3. โรงแรมเลอบัว
             4. โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แบงคอก สีลม
             5. โรงแรม อีสติน แกรนด์
             6. โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟีนิกซ์ สีลม
             7. โรงแรม โหมด สาทร

โครงสร้างจากทางแผนการ



เพราะว่าถนนสาทรช่วงสถานีบีทีเอสสุรศักดิ์นั้นเป็นช่วงที่อยู่เคียงกับสะพานตากสินหรือไม่ก็บางท่านจักชินกับคำว่าสะพานสาทร ที่จักข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังฝั่งธนบุรี เป็นสะพานที่รถติดกระหน่ำสุดๆในช่วงเช้าเย็น โดยเฉพาะน้องๆเปิดเทอมกัน สาหัสมาก ยังดีที่มีสถานีรถไฟฟ้าคอยให้บริการเพื่อบรรเทาการจราจรอยู่ สถานีที่เข้าถึงตัวสถานีสุรศักดิ์อยู่คือสถานีสะพานตากสินกับสถานีช่องนนทรี นับตั้งแต่ทางลงสะพานตากสินก้าวเข้าสู่ตัวถนนสาทรเหนือมา จะเห็นอาคารสูงรายล้อมสองฝั่งขนานถนนสาทรไปเรื่อยๆ บริเวณนี้นับว่าเป็นศูนย์กลางเมืองเหมือนข้ามสะพานตากสินมา ความหนาแน่นของโรงเรียนจะค่อนข้างโข พอถัดเข้าช่วงใกล้ถนนพระราม 4 จักเน้นอาคารสำนักงานซักส่วนใหญ่

คงจักต้องชี้ว่า การคมนาคมบริเวณ BTS สุรศักดิ์นี้ เป็นหนึ่งในวงที่ควรจักเลี่ยงเอามากๆของกรุงเทพมหานคร เพราะเป็นจุดที่ “เข้าง่ายออกยาก” มีสะพานสาทร ที่รถติดทุกวัน ท้ายแถวยาวเป็นกิโล รถจากฝั่งพระนครจักรินมาจากสีลม สร้างผ่านมาทางทางสัญจรสุรศักดิ์พร้อมกับซอยย่อยอื่นๆ จากพระราม 4 จากนราธิวาสฯ จากถนนจันทน์ จากรัชดา รวมไปถึงจากทางด่วนลงสีลม กรูกันเข้ามาเพื่อที่จะข้ามสะพานสาทร ในขณะที่รถจากฝั่งธนก็เทเข้ามาฝั่งนี้ไม่น้อยเหมือนกัน ทำให้การจราจรตรงนี้ติดหนักอย่างเลี่ยงไม่ได้

หนำซ้ำ ถนนสาทรช่วงนี้ ที่กลับรถมีเท่าตรงหน้าโรงพยาบาลบางรัก กลับรถที่สี่แยกสาทร-นราธิวาสไม่ได้ (นี่ยังไม่ได้พูดถึงรถจากสี่แยกอีกนี้นะ) กลับรถที่แยกสาทร-สุรศักดิ์ก็ไม่ได้ ถนนหลายจุดถูกปรับเป็นวันเวย์ในเวลาโรงเรียนเข้า-เลิก ทั้งโรงเรียนอัสสัมชัญฝั่งสาทรใต้กับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฝั่งสาทรเหนือ ถ้าจักบ่งว่าจุดที่ทำรถติดลามไปจนถึงถนนเส้นอื่นๆบริเวณนี้ที่กล่าวมา คือสี่แยกนี้ ก็คงจะไม่ผิด

คำเสนอแนะการเดินรถในทำเลนี้ต้องพินิจให้ดีนะ ว่าเดินรถทางเดียวไหม บางจุดเก่งกลับรถได้ช่วงเวลาไม่เร่งด่วน การจราจรบนเส้นถนนสาทรขัดข้องขึ้นอันดับของกรุงเทพอยู่แล้ว ยังดีที่มีทางขึ้นลงทางด่วนศรีรัชใกล้ๆทำให้ร่นระยะเวลาไปได้เยอะ

เหตุด้วยห้องของโครงการจักแบ่งออกเป็น 4 Type

1 Bedroom ขนาด 40 - 52 ตร.ม.

2 Bedrooms ขนาด 59 - 76.5 ตร.ม.

3 Bedrooms ขนาด 85.5 - 99.5 ตร.ม. ด้วยกัน Penthouse ขนาด 133 - 205 ตร.ม.(เพดานสูง 4 ม. พร้อมสระว่ายน้ำเป็นแบบ Semi-indoor จำนวน 3 ยูนิต)

มูลค่ากับเงื่อนไขการขาย @ 25/10/2013
  • 1 Bedroom ชั้น 11 Type A3 ห้อง 1106 เนื้อที่ 45.00 ตารางเมตร ค่า 9,951,752 ล้านบาท ใช่ไหม 221,150 บาทต่อตารางเมตร
  • 1 Bedroom ชั้น 17 Type A2 ห้อง 1702 เนื้อที่ 42.50 ตารางเมตร สนนราคา 9,477,381 ล้านบาท ใช่ไหม 222,997 บาทต่อตารางเมตร
  • 2 Bedroom ชั้น 13 Type B5 ห้อง 1306 เนื้อที่ 76.50 ตารางเมตร ค่า 17,084,143 ล้านบาท หรือว่า 223,322 บาทต่อตารางเมตร
  • 3 Bedroom ชั้น 26 Type C1 ห้อง 2608 เนื้อที่ 85.50 ตารางเมตร สนนราคา 19,825,128 ล้านบาท หรือ 231,872 บาทต่อตารางเมตร
  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 3-4 เมตร
  • จอง 1 ห้องนอน 50,000 บาท 2 ห้องนอน 100,000 บาท
  • ทำสาบาน 14 วันหลังจอง
  • ค่ากองทุน 800 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 80 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
The Diplomat Sathorn นั้นเป็นคอนโดมิเนียมสง่าตรงกลางเมือง ที่ติดรถไฟฟ้า เพราะว่าไม่ได้ขายปางแค่คำว่าใกล้ แต่เป็นคำว่า ติด เลยทีเดียวซึ่งไม่ได้แค่คำโฆษณาเท่านั้นเพราะเหตุเพราะมีบันไดเลื่อนขึ้นพาดอยู่บริเวณด้านหน้าของโครงการ กับยังอยู่ในตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจพร้อมด้วยโรงเรียนเอกชนทั้งหลาย ทางเข้าออกโครงการอยู่ติดถนนสาทร พร้อมทั้งสถานีสุรศักดิ์ในอนาคตนั้นจะกลายเป็นสถานีสุดท้ายก่อนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังฝั่งธนฯเนื่องด้วยการยกเลิกสถานีสะพานตากสินเพื่อการระบายผู้โดยสารที่เร็วขึ้นจากการเปิดส่วนต่อขยาย การเดินทางไปขึ้นท่าเรือนั้นจักมี Sky Walk ที่มีทางเลื่อนอัตโนมัติเข้ามารองรับแทน ทำให้ไม่จำเป็นต้องนั่งรถไฟฟ้าไปอีกป้ายเพื่อขึ้นเรือแล้ว

อาการชุมชนนั้น บริเวณใกล้สถานีไม่ค่อยมีสิ่งอำนวยความสะดวก หรือว่าสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยเท่าไรนัก มีเซเว่นที่เพิ่งจักเปิดได้ไม่นานที่ ชาร์ตเตอร์ สแควร์ ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสำนักงาน โรงเรียน เหรออาคารพาณิชย์ต่างๆมากกว่า ส่วนที่อยู่อาศัยจะอยู่ลึกเข้าไปในซอย เซนต์หลุยส์ทางฝั่งสาทรใต้ ด้วยกันสีลมทางฝั่งสาทรเหนือ ซึ่งสภาพแวดล้อมจักคลาดเคลื่อนจากถนนใหญ่มาก น่าอยู่กว่ามาก สิ่งอุปโภคบริโภคหาได้ง่ายกว่า แต่มีความเป็น Local มาก คนที่ไม่ชินอาจจะไม่ชอบ ใกล้สถานีมลพิษค่อนข้างบานเบอะเนื่องจากว่าอยู่ใกล้สี่แยก พร้อมด้วยสาทรเป็นถนนเส้นใหญ่ 8 เลน ทำให้สภาพชุมชนเพราะรอบของสถานีนี้ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไร

การเดินทางด้วยรถ สะดวกมาก เพราะว่าติดถนนใหญ่ แต่เป็นเส้นที่รถติดกันสาหัสเลยทีเดียว ช่วงเวลาเช้าเย็นหรือไม่โรงเรียนเข้าและโรงเรียนเลิก เพราะว่าเฉพาะอย่างยิ่งกรุงเทพคริสเตียนข้างๆตึกนี่ละ โชคดีหน่อยฝั่งสาทรเหนือตอนค่ำๆรถไม่ค่อยติดเท่าไหร่ แต่เวลาเร่งด่วนช่วงเช้านี่ลืมไปได้เลย แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติก็ชิวๆนะ รถสะสมไม่มาก ระบายได้เรื่อยๆกับยังไปขึ้นทางด่วนโดยเข้าถนนประมวญไปทะลุศรีเวียงออกสุรศักดิ์เพื่อขึ้นศรีรัชได้ไม่ยาก นอกจากช่วงเปิดเทอมที่จะอภิมหาติดแล้ว อีกช่วงคือช่วงแห่พระแม่อุมาเทวีนี่ผ่านหน้าโครงการแน่ๆ อันนี้ปิดถนนเลย ซึ่งจะมีเทศกาลนี้ทุกๆปีช่วงปลายๆปี

การเดินทางไม่ใช้รถ สะดวกสุดๆ บีทีเอสทางขึ้นที่ตัดผ่านหน้าโครงการ อาจจักวุ่นวาย ไม่ได้เงียบสงบตามภาพ Render ที่ออกมาเพราะว่าตามปกติ จักมีข้าวของขายริมถนน เด็กๆจะซื้อกันเพียบเลยนะ แต่ก็สะดวกมากๆ นอกจากนี้ยังมีรถแดง 7 บาทที่เดินทางไปบางรัก ท่าเรือได้อีกด้วย

วัสดุโครงการให้มาแบบจัดเต็ม รวมทั้ง Fully Furnished ของที่ให้มาก็เป็นของดี นำเข้ากระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ตัววัสดุพื้นก็เป็น Engineering Wood ห้องน้ำ ให้อุปกรณ์ ก๊อกน้ำ, ฝักบัว ยี่ห้อ Kohler และสุขภัณฑ์ ยี่ห้อ Villeroy & Boch ส่วนเตรียมอาหาร ให้ชุดเคาน์เตอร์ครัว Top หิน Quartz Silestone พร้อมเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว ด้วยกันไมโครเวฟ ยี่ห้อ Kuppersbusch พร้อมชุดอ่างล้างจาน Teka , ที่ดูดควัน Teka และตู้เย็นแบบ Built-in ฝังในชุดเคาน์เตอร์ครัวยี่ห้อ Teka , เครื่องปรับอากาศ แบบ Spilt -Type ของ Daikin แบบนี้สวยงามแต่จักลำบากในการดูแล

ในเรื่องของรูปแบบอาคารนั้นมีการนำเอากลิ่นอายของ Existing เดิมที่เป็นบ้านของเจ้าพระยามาถอดรายละเอียดไว้ในอาคารส่วน Podium พร้อมด้วยด้าน  Tower จักเป็นลักษณะ Modern ซึ่งทำให้ เวลาเดินมาระดับสายตาจะเห็นอาคารแนวคลาสิค เรียบหรู แต่ครั้นเมื่อมองจากรถไฟฟ้า เหรอมุมสูงนั้นจะเห็นเป็นอาคารหน้าตา Modern ในเรื่องของวิว นั้นด้านที่ติดกันกับ Mode ไม่มีเปิดวิวออกสู่ด้านนี้เลย จักมีด้านหลังที่มองไปทางทิศเหนือ ต้องหลบอาคาร  BCC ของกรุงเทพคริสเตียนซักหน่อย มาที่ห้องพักกันดีกว่า ฝ้าเพดานของโครงการจัดมาให้สูงเลยคือ 2.7-3 เมตรพร้อมกับ 4 เมตรใน Penthouse แต่เพราะห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอนนั้นไม่มีระเบียงซึ่งบางท่านที่อยู่คอนโดไม่ชอบ แต่บางท่านชอบ ต้องขยับไปดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น ที่เห็นชัดเจนของแบบห้องที่นี่คือเรื่องพื้นที่เก็บของที่มีแทรกอยู่ให้อื้อดีนะไหนๆก็จัด Fully Furnished มาให้ ทำชั้นเก็บของมาให้ด้วยเลย นับว่าเป็นดีนะ เพราะคอนโดอยู่ๆไปของก็แยะขึ้นแต่ที่เท่าเดิม แต่ด้วยพื้นของบางส่วนยังใช้เป็นวัสดุเดียวกันเช่นครัวกับซักล้าง เป็น Engineer Wood อยู่ซึ่งจักดูแลลำบากเรื่องความชื้น

สาธารณูปโภคของแผนการจัดมาให้แบบมากมายดีนะ นอกจากกฏเกณฑ์ของคอนโดมิเนียมยุคนี้แล้วยังมีส่วนอื่นๆที่เพิ่มความพิเศษกับโครงการ อย่าง Kid’Zone , Diplomat Club , Cigar Lounge , Oval ในส่วน Lobby เป็นต้น ด้วยกันสระว่ายน้ำ Lap Pool ที่เห็น City View Fitness จักมีจุดเด่นที่เรื่องวิวเพราะอยู่ชั้นบนสุดของอาคารทำให้เห็นวิวได้กว้าง , ในส่วนของที่จอดรถ มี 100% เพื่อคอนโดมิเนียมระดับมูลค่า สองแสนอัพนี่ควรจะมีให้ตั้งนานแล้ว

Judgement
โครงการในเกรดระดับมูลค่า SUPER LUXURY CLASS ขึ้นไป ทางเราจักงดเว้นการให้แนนเรื่องความคุ้มค่านะ เช่นเดียวกันกับโครงการอื่นๆในระดับมูลค่าเดียวกัน
ทำเล - ใจกลางเมือง ศูนย์กลางธุรกิจ ด้วยกันโรงเรียนเอกชน แต่การเดินหาของทานแบบตลาดจักไม่มีระยะใกกล้ต้องไป บางรัก เจริญกรุง เป็นต้น
เดินทางด้วยรถ - สะดวกแต่ถนนสาทรช่วงนี้รถติดมหาศาลในช่วงเวลาเร่งด่วน ดีที่มีซอยทางลัดอยู่ข้างๆ
ไม่ใช้รถ - มีรถไฟฟ้าด้านหน้าของโครงการเลย
วัสดุ - สวย ถือว่าให้มาเหมาะสมกับสนนราคา พร้อมกับยัง Fully Furnished
แม่พิมพ์ - ทำห้องออกมาได้ดี ชอบห้องน้ำห้องใหญ่
สาธารณูปโภค - จัดมาให้ก่ายกอง พร้อมด้วยหรูหรามีจุดเด่นหลายที่
SUPER LUXURY CLASS
NOT JUDGED

รูปภาพเพิ่มเติม

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : thinkofliving.com

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

คอนโดโครงการใหม่ Menam Residences สุดงดงาม เชิงสายน้ำเจ้าพระยา

คอนโดโครงการใหม่ Menam Residences สุดสง่า กรอบแม่น้ำเจ้าพระยา

Menam Residences (แม่น้ำ เรสซิเดนซ์) เป็นโครงการคอนโดใหม่จากเจ้าของโรงแรมแม่น้ำ ที่ปัจจุบันใช้แบรนด์ของเชนโฮเต็ล RAMADA ทำคอนโดมิเนียมออกมาค้าขายบนที่ดินผืนงามบนเขตเจริญกรุง บริเวณซอย 72 เปิดเปิงพื้นที่ใหม่ขึ้นโครงการริมแม่น้ำเจ้าพระยา คืบหน้าเป็นสองส่วน Forum & Convention Hall สันน้ำพร้อมทั้ง Condominium ระดับ Luxury ที่ทางแผนเคลมว่าทุกห้องได้ River View เป็นเซอร์วิสคอนโดมิเนียมอันดับไฮเอนท์ อาจมองทิวทัศน์แม่น้ำทุกยูนิต ตอบตอบสนองความต้องการจะตำหนักอาศัยของผู้มีความพอใจกับบรรยากาศคฤหาสน์ริมน้ำเจ้าพระยา ภายใต้ปรัชญา คอนโดมิเนียมมีชีวิต ที่คิดมาเพื่อทุกคน ให้ความคล่องสบายในทุกๆ มิติของชีวิตคนเมืองทั้งการเดินทางที่แสนง่ายสบายใกล้แหล่งต่างๆใจกลางย่านธุรกิจ เช่น สีลม สาทร ลูกบ้านอาจจักใช้บริการเรือรับ-ส่ง (Shuttle Boat Service) จากท่าเรือส่วนตัวถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานตากสินเพื่อเข้าไปสู่ทุกพื้นที่ของกรุงเทพฯ ได้ส่วนรวดเร็ว
พลความภายในโครงการ
นามาโครงการ : แม่น้ำ เรสซิเดนท์ / Menam Residences
เจ้าของโครงการ : Menam Residences Co.,Ltd. (Menam Group - RAMADA Plaza Hotel)
เขตทั้งหมด : 5 - 0 - 58 ไร่
จำนวนตึก : 1 อาคาร High Rise
จำนวนชั้น : 54 ชั้น
จำนวนห้อง : 294 ยูนิต
ที่จอดรถทั้งหมด : 345 คัน หรือไม่ก็คิดเป็น 120% + 50 ซ้อนคัน = 136%
เขตแดนใช้สอย : 44 - 287 ตร.ม.
ประเภทห้องกับขนาดห้อง :
          1 Bedroom : 44 - 60 ตร.ม. / 130 ยูนิต
          2 Bedroom : 63 - 99 ตร.ม. / 72 ยูนิต
          3 Bedroom : 120 - 162 ตร.ม. / 83 ยูนิต
          Duplex, Penthouse : 262 - 287 ตร.ม. / 9 ยูนิต
แถบ : เจริญกรุง, สาทร, พระราม 3
ขนส่งสาธารณะ : รถไฟฟ้า BTS สะพานตากสิน
รถโดยสารที่ทะลวง : รถประจำทาง สาย 1, 15, 22, 75, 163, ปอ.504, ปอ. 547
ที่ตั้ง : ซ.เจริญกรุง 72/4 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ
กำหนดการ : เปิดฝาสร้างปี 2557
ปีที่สร้างเสร็จ : เคียนว่าแล้วเสร็จปี 2559
มูลค่าเริ่มต้นต้น : 4.9 ล้านบาท  / LUXURY CLASS : 8 ล้านบาทขึ้นไป
สนนราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม เปิดม่านต้น : 180,000 บาท/ตร.ม.

สถานที่สำคัญใกล้เคียง :
          - รถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานตากสิน / 1.6 กม.
          - เอเชียทีค / 350 เมตร
          - โรงเรียนนานาชาติ โชรส์เบอรี่ / 500 เมตร
          - โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน / 2.5 กม.
          - โรงแรมชาเทรียม / 650 เมตร
          - Homepro พระราม 3 / 2.5 กม.
          - Vanilla Moon (คอมมูนิตี้มอลล์) / 2.0 กม.
          - โรบินสัน บางรัก / 1.7 กม.
          - เซ็นทรัล พระราม 3 / 4.4 กม.
          - เทสโก้ โลตัส พระราม 3 / 4.4 กม.
          - โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ / 1.8
          - โรงพยาบาลเลิดสิน / 2.6 กม.
          - โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ / 3.5 กม.
          - โรงพยาบาลสมิติเวชธนบุรี / 4.7 กม.
สิ่งอำนวยความง่าย :
          - สระว่ายน้ำ (Infinity Edge)
          - ซาวน่า, สตรีม
          - รปภ. พร้อมทั้ง กล้องวงจรปิด
          - ประตู Key Card
          - สวนหย่อม
          - ห้องสมุด
          - ห้องเด็กเล่น
          - ออนเซนในร่มกับกลางแจ้ง
          - สกายเลาจน์
          - สนามออกกำลังกาย

Menam Residences ตั้งอยู่บนพื้นที่เก่าแก่ของประเทศไทย บนเส้นทางเจริญกรุงซึ่งเป็นถนนเส้นแรกของประเทศไทย ตัดทะลุชุมชนค้าซื้อขายเลาะแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งพระนคร และในปัจจุบันนี้การที่ดินบริเวณข้างเคียงถูกเพิ่มขึ้นขึ้นมาเป็น Asiatique ศูนย์การค้าริมน้ำที่มีสีสันเต็มที่ในเวลายามวิกาล ทำให้พื้นที่ริมน้ำบนถนนเจริญกรุงนี้เป็นทำเลที่ดีกับมีมูลค่าสูงมาก อันเป็นที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าโรงแรมใหญ่ๆดังๆอย่าง  แชงกรีลา กับ Mandarin Oriental ก็ตั้งอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาบนทางเจริญกรุงเหมือนกัน

แต่ในขณะเดียวกันการที่มารคเจริญกรุงเป็นตัวถนนเก่าแก่ ทำให้สายถูกออกแบบมาตั้งแต่เวลาร้อยกว่าปีก่อน ความกว้างของถนนไม่เหมาะกับการสัญจรของคนในยุคปัจจุบัน ตั้งแต่บางรักไปยังถนนตก ถนนเส้นนี้มีเพียง 4 เลน พร้อมด้วยยังเป็นที่จอดรถชั่วคราวของคนแถวนี้อีก 1-2 เลน ซึ่งจะทำให้เหโจษการใช้งานยิ่งพาง 2 เลนในบางช่วง เป็นเหตุให้เกิดปัญสมมุติารจราจรติดขัด เพราะเฉพาะอย่างยิ่งคืนวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ที่จักมีผู้มา Asiatique จำนวนมาก

ดังนั้นทางเลือเลื่องกของการเดินทางด้วยรถยนต์ก็จักใช้ทางด่วนเป็นหลัก ด้วยกันทางด่วนที่ขึ้นได้ง่ายที่สุดคงจะหนีไม่ผ่านพ้นทางด่วนบริเวณเส้นทางจันทน์-ถนนเจริญราษฎร์ ที่ห่างจากโครงการไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร กับที่จอดรถของ Menam Residences ก็จัดเอาไว้พอเท่า มีจำนวน 350 + 50 คัน คิดเป็น 136% ของจำนวนยูนิต ทำให้ไม่ต้องอาสูรเรื่องปัญหาที่จอดรถ


การเดินทางเพราะไม่ใช้รถอาจจักต้องพึ่งพาเรือ Shuttle Boat เป็นหลัก ซึ่งเป็นบริการร่วมกับโฮเต็ล RAMADA ที่เป็นเจ้าของแผนอยู่แล้ว จากการสอบถามพบว่าทางโครงการจักอนุญาตให้ลูกบ้านใช้เรือไปขึ้น BTS (ปัจจุบันสถานีสะพานตากสิน) ส่วนรถสาธารณะอื่นๆ ก็มีทุกแบบไม่ว่าจักเป็น Taxi, สามล้อ, สองแถว, รถเมล์ หรือพี่วินมอเตอร์ไซค์



วัสดุเครื่องไม้เครื่องมือจัดมาให้ในเกรดที่ดี เหมาะสมพร้อมทั้งบางอย่างอาจจักเกินเกรดของคอนโดระดับ Luxury Class ไปบ้าง เช่นหิน Quartz ที่ใช้ประดับท๊อปครัวและท๊อปห้องน้ำ หน้าบานครัวที่ใช้เป็นกระจกแทนที่จักเป็นแบบไฮกลอส รวมไปถึง VDO Door Phone กับ Digital Door Lock

การออกแบบดีมากที่มี Universal Design ทางเดินทั้งหมดของแผนการมีทางลาดให้ผู้ที่นั่งเก้าอี้รถเข็นเก่งเข้าถึงได้ โถงทางเดินพร้อมด้วยโถงลิฟท์ทั้งหมดก็เช่นกัน ขนาดความกว้างจักพอที่ทำให้เก้าอี้รถเข็นเข้าได้ อีกทั้งลูกบ้านเก่งเลือกปรับแปรปรวนห้องน้ำให้เป็นแบบ Universal Design ตามที่เสนอไปได้ ด้วยกันการที่เป็น Single Loaded Corridor ทำให้ตัวตึกสูงโปร่งโล่ง สภาพอากาศถ่ายเทได้ดี มีลิฟท์ 6 ตัวต่อ 294 ห้อง ทำให้อัตราส่วนลิฟท์ดีมากอยู่ที่ 49:1 ส่วนข้อติอาจจักเป็นเรื่องของระเบียงที่ความกว้างอาจจะน้อยไปนิดในหลายๆยูนิต (ไม่ทุกยูนิต) ไม่รอบรู้ยกโต๊ะหรือว่าเก้าอี้ยาว Daybed ออกไปนอนรับลมชมวิวเจ้าพระยาได้ 100%

สาธารณูปโภคจัดมาให้เป็นกอง ครบ เต็ม ตั้งแต่ชั้น G ที่มีสวนใหญ่พร้อมเก๋งในบ่อน้ำ ไปจนถึงชั้น 10 ที่เป็นสระว่ายน้ำลากยาวตั้งแต่ตัวตึกฝั่งเจริญกรุงไปจนถึงฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมทั้ง Sky Lounge ที่ชั้น 41 ไม่มีการนำยูนิตร้านค้าใดๆเข้ามาอยู่ในแผน ทำให้เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้สูงมากกับลูกบ้าน

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : thinkofliving.com
ขอขอบคุณภาพสวยๆจาก : menamresidences.com